ปฎิทินG12

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปารีส

“ปารีส” เมืองหลวงแห่งแฟชั่นชั้นสูง ที่สุดแห่งความงดงามทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และศิลปะแห่งการใช้ชีวิต

ตระการตากับความงดงามของ "มหานครแห่งแสงไฟ" หรูหราระยิบระยับไปกับแสงสีแห่งแฟชั่น ตื่นตะลึงกับทุกองศาความงาม ที่คุณจะตกหลุมรักตั้งแต่
แรกเห็น และยากจะถอนตัวกับความวิจิตรบรรจงทุกมุมมอง ของมหานครปารีส ที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม สวยงาม และโรแมนติก ทั้งผู้คน ถนนหนทาง อาคาร
บ้านเรือน อาหาร ขนม ไอศกรีม ฯลฯ ไม่ว่าจะเวลาไหน ฤดูกาลใด “ปารีส” ก็สวยสง่า ตระการตา ทุกมุมมอง สวยทุกเมื่อ อ่อนหวานทุกเวลา






“ปารีส” เมืองหลวงแห่งแฟชั่นชั้นสูง ที่สุดแห่งความงดงามทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และศิลปะแห่งการใช้ชีวิต

ตระการตากับความงดงามของ "มหานครแห่งแสงไฟ" หรูหราระยิบระยับไปกับแสงสีแห่งแฟชั่น ตื่นตะลึงกับทุกองศาความงาม ที่คุณจะตกหลุมรักตั้งแต่
แรกเห็น และยากจะถอนตัวกับความวิจิตรบรรจงทุกมุมมอง ของมหานครปารีส ที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม สวยงาม และโรแมนติก ทั้งผู้คน ถนนหนทาง อาคาร
บ้านเรือน อาหาร ขนม ไอศกรีม ฯลฯ ไม่ว่าจะเวลาไหน ฤดูกาลใด “ปารีส” ก็สวยสง่า ตระการตา ทุกมุมมอง สวยทุกเมื่อ อ่อนหวานทุกเวลา



“ปารีส” เมืองหลวงแห่งแฟชั่นชั้นสูง ที่สุดแห่งความงดงามทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และศิลปะแห่งการใช้ชีวิต

ตระการตากับความงดงามของ "มหานครแห่งแสงไฟ" หรูหราระยิบระยับไปกับแสงสีแห่งแฟชั่น ตื่นตะลึงกับทุกองศาความงาม ที่คุณจะตกหลุมรักตั้งแต่
แรกเห็น และยากจะถอนตัวกับความวิจิตรบรรจงทุกมุมมอง ของมหานครปารีส ที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม สวยงาม และโรแมนติก ทั้งผู้คน ถนนหนทาง อาคาร
บ้านเรือน อาหาร ขนม ไอศกรีม ฯลฯ ไม่ว่าจะเวลาไหน ฤดูกาลใด “ปารีส” ก็สวยสง่า ตระการตา ทุกมุมมอง สวยทุกเมื่อ อ่อนหวานทุกเวลา


มหานครปารีสเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ (île-de-France) หรือ Région Parisienne ริมฝั่งแม่น้ำแซน (La Seine) ทาง
ทิศเหนือของประเทศ นอกจากจะเป็นเมืองหลวงแล้ว ปารีสยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นเมืองแห่งแฟชั่นชั้นสูง สถาปัตยกรรมล้ำสมัย ศิลปวัฒนธรรม และศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ปารีสจึงติดอันดับ 1 ใน 4 เมืองสำคัญ
ที่สุดของโลก นอกเหนือจากลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว

หอไอเฟล (La Tour Eiffel)
สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส และหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของโลก ซึ่งออกแบบโดย “กุสตาฟ ไอเฟล” หอไอเฟลเป็นหอคอยโครงสร้างเหล็ก ตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ ใกล้กับแม่น้ำแซน
หอไอเฟลจัดเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเลิศ สัญลักษณ์แห่งเมืองปารีสและฝรั่งเศส ผสานไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง
สง่างาม และความวิจิตรของความเป็นปารีสไว้ได้อย่างชาญฉลาด จากการสร้างสรรค์ของกุสตาฟ ไอเฟล เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสทั้งในด้านเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีในงานเอ็กซ์โปปี ค.ศ. 1889 สร้างด้วยเหล็กกล้าร่วม 10,000 ตัน มีความสูงรวมเสาอากาศ 324 เมตร สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น และมีบันไดถึง 1,665 ขั้น และความสูงของหอไอเฟลนั้นสามารถยืดได้หดได้ตามสภาพอากาศแต่ละวัน ด้วยความที่สร้างจากเหล็กจึงทำปฏิกิริยากับอุณหภูมิร้อนหนาวที่เข้ามากระทบ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นบันไดหรือลิฟต์เพื่อชมวิวกรุงปารีสจากหอไอเฟลได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 - 4.00 น. โดยจะต้องเสียค่าขึ้นหอคอยตามจำนวนชั้นที่ต้องการขึ้นชม ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 ชั้น (
รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่) ปารีสเขาก็มีมุมที่สามารถมองเห็นและถ่ายรูปหอไอเฟลได้สวยที่สุด ที่ลานทรอคาเดโร หรือ “Place du Trocadero” ที่เราจะได้เห็นหอไอเฟลกันแบบเต็มตา และถ่ายรูปกันได้แบบเต็มใจ

แฟชั่นเกาหลี

แฟชั่นในยุคนี้ "เทรนด์เกาหลี" เริ่มเข้ามาในสังคมไทยเรามากสุด ๆ เมื่อพูดถึงคำ ๆ นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ กระแสที่มาแรงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมทางด้านการบันเทิง ดารา นักร้อง ซีรี่ส์ต่าง ๆ ในด้านของภาษาก็เป็นที่นิยมไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีจำนวนนิสิตนักศึกษาไม่น้อยที่สนใจและเลือกเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้น พวกเราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การทักทาย และแฟชั่นเสื้อผ้า เพราะว่าคนเกาหลีเน้นสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาลแตกต่างกันไป แต่ละฤดูมีลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน เช่น
         ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า "พม" ฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด สดใส เสื้อผ้ามีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน
         ฤดูร้อน หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า "ยอรึม" ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีสดใสเช่นกัน แต่โทนสีอ่อนลงมากกว่า ลักษณะเสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน เป็นต้น
         ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า "คาอึล" ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นเสื้อผ้าสีทึบ ๆ มืด ๆ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีน้ำตาล
         ฤดูหนาว หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า "คยออูล" ฤดูนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่เน้นสีดำเป็นหลัก เสื้อแขนยาวสีเข้ม เสื้อกันหนาวสีดำ เสื้อไหมพรมใส่คู่กับผ้าพันคอสีเข้ม ๆ
         เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัวยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน
         สำหรับผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก
         รองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
         เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
         ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
         เครื่องประดับผม ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ คือ "ที่คาดผมแบบทูอินวัน" (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก
         รวมไปถึง "แฟชั่นการแต่งหน้าแบบเกาหลี" ที่เป็นกระแสมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ การแต่งหน้าแบบเกาหลีจะเน้นแบบธรรมชาติเป็นหลัก การแต่งหน้าแบบนี้คนไทยเราก็กำลังฮิตกันมาก ๆ ลักษณะการแต่งหน้าแบบนี้ นอกจากจะดูสวยอย่างธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่สดใสอีกด้วย

แฟชั่น

แฟชั่น เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า fashion ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำนี้ว่า "สมัยนิยมหรือวิธีการที่นิยมกันทั่วไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง" เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นค่านิยม มีกระบวนการเกิดภาษาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากคำว่า “วิวัฒนาการ” ที่ทฤษฎีของ ชาร์ลส์ ดาร์วินระบุไว้ว่าวิวัฒนาการ คือ การเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้เวลายาวนานและสามารถถ่ายทอดสิ่งนั้นไปสู่ลูกหลานได้ โดยมากแล้วคำว่าแฟชั่น มักมีความหมายเกี่ยวกับการแต่งตัว


เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มุนษย์ต้องการในการดำรงชีวิตเพื่อปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่น ความเจริญของมนุษย์ทำให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้สวมใส่ได้ด้วย เช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, ฯลฯ

จากนี้ไปจนนิรันดร์

ยินดีต้อนรับ





     ยินดีต้อนรับเข้าสู้ blogger ของ ภิชชา พุฒตาล blogger สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน